จะรู้ได้อย่างไรว่ามีคนบล็อกคุณบน WhatsApp หรือ Facebook Messenger
วิธีการติดต่อกับเพื่อนและครอบครัวของเราได้เปลี่ยนแปลงไปมากในไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อก่อนเราใช้วิธีการส่งข้อความ SMS ผ่านโทรศัพท์มือถือ (โดยที่เราพยายามอัดข้อความลงในแมสเสจเดียวเพื่อประหยัดค่าส่ง) หรือการโทรหาคู่สนทนาโดยตรง
ด้วยเทคโนโลยีที่เรามีในวันนี้ เราสามารถส่งข้อความได้อย่างไม่จำกัดไปหาเพื่อนและครอบครัวของเราได้ โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว แอปในโซเชียลได้พัฒนาการสื่อสารให้ก้าวไปสู่ประสบการณ์ที่ไม่รู้จบ เราสามารถทำได้แม้กระทั่งโทรหาหรือโทรวีดีโอคอลในหลายๆ โซเชียลแอปที่มีอยู่ในทุกวันนี้
หากคุณเคยแชทกับเพื่อนของคุณก่อนยุคของสมาร์ทโฟน คุณคงประสบกับความรู้สึกกังวลว่าคนที่คุณส่งข้อความหาจะได้รับมันหรือไม่ และเป็นไปได้ว่าเมื่อหลายชั่วโมงผ่านไปพวกเขาก็ยังไม่ส่งข้อความตอบกลับมา อย่างไรก็ตามความกังวลนี้ก็ได้หมดไปในยุคของสมาร์ทโฟน ที่เราสามารถทราบได้ว่าอีกฝ่ายได้รับข้อความของเราแล้วและอ่านข้อความของเราแล้วหรือยัง ผ่านเครื่องหมายถูกเล็กๆ ที่ระบบของแอปได้จัดทำขึ้นมา
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ก็อาจเป็นดาบสองคนได้ เพราะคุณคงจะกระวนกระวายหนักกว่าเก่า หากระบบขึ้นมาอีกฝ่ายได้อ่านข้อความของคุณแล้ว แต่ว่ายังไม่มีวี่แววที่พวกเขาจะตอบกลับคุณมา เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น หนึ่งในความเป็นไปได้ก็คือคุณถูกบล็อกบนแอปโซเชียลต่างๆ นั่นเอง
เริ่มกันที่แอปยอดนิยมในตลาดของเรา WhatsApp ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าคุณไม่มีทางที่จะรู้ได้แน่นอนว่าคุณถูกบล็อกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนงำบางอย่างที่สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณอาจเป็นคนที่คู่สนทนาไม่ต้องการพูดคุยด้วยอีกต่อไป
เคล็ดลับในการดูว่าใครบล็อกคุณ
เมื่อคุณส่งข้อความใน WhatsApp คุณจะเห็นเครื่องหมายถูกสีเทาแรก สิ่งนี้บ่งบอกว่าข้อความของคุณได้ถูกส่งไปยังอุปกรณ์ของคู่สนทนาแล้ว โดยปกติแล้วมันมักจะตามมาด้วยเครื่องหมายถูกสีเทาที่สองโดยทันที สิ่งนี้เป็นตัวยืนยันว่าคู่สนทนาของคุณได้รับข้อความแล้วจริงๆ ต่อจากนี้สิ่งที่เรามักจะได้เห็นกันก็คือเครื่องหมายถูกจะเปลี่ยนไปเป็นสีฟ้า ซึ่งสิ่งนี้บอกว่าข้อความของคุณไม่ได้แค่ถูกส่งไปแล้วเท่านั้น แต่ยังถูกเปิดดูและอ่านโดยคู่สนทนาแล้ว
หากคุณส่งข้อความไปแล้วปรากฎแค่ลูกศรสีเทาอันเดียวภายใต้ข้อความของคุณไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด คุณสามารถสันนิษฐานได้ว่าคุณถูกบล็อกเข้าเสียแล้ว อย่างไรก็ตามสิ่งนี้อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่นเช่น คู่สนทนาของคุณอยู่นอกพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเป็นเวลาหลายวัน หรือพวกเขาอาจลบบัญชีไปแล้วก็ได้
การเข้าถึงครั้งสุดท้าย
อีกสิ่งนึงที่จะช่วยบอกคุณได้ก็คือ ข้อมูลของ “การเข้าถึงครั้งสุดท้าย” ที่เราสามารถเห็นได้เมื่อเรากดที่รายชื่อผู้ติดต่อ ข้อมูลนี่จะบอกเราว่าคู่สนทนาของเราเปิดดู WhatsApp เมื่อไหร่ (และอาจทำให้เราโกรธได้หากเห็นว่าพวกเขาออนไลน์อยู่แต่ไม่ยอมตอบเรา)
หากคุณไม่เห็นข้อมูลนี้ปรากฎบนหน้าจอ อาจเป็นไปได้อีกว่าคุณถูกบล็อกเข้าแล้ว แต่ก็เป็นไปได้ว่าคู่สนทนาได้ตั้งค่าส่วนตัวที่จะซ่อนข้อมูลนี้
รูปโปรไฟล์
สิ่งบ่งบอกที่ชัดเจนว่าคุณถูกบล็อกแล้วก็คือหากคุณไม่สามารถเห็นรูปโปรไฟล์ของคู่สนทนาของคุณเป็นเวลานาน หากแฟนเก่าของคุณเคยตั้งรูปรูปโปรไฟล์ไว้ และวันนี้คุณกลับพบว่ามันว่างเปล่า ให้สันนิษฐานไว้ว่าเขาบล็อกคุณเข้าเสียแล้ว
วีดีโอ เสียง และแชทกลุ่ม
ลองวีดีโอคอลหาคู่สนทนาของคุณดู หรืองลองโทรหาด้วยเสียง ลองแอดพวกเขาเข้ากลุ่ม หากทั้งหมดที่กล่าวมานั้นล้มเหลว คุณสามารถมั่นใจได้ว่า พวกเขาได้ลบบัญชีไปแล้ว หรือคุณถูกบล็อกเข้าแล้วหล่ะ!
Facebook Messenger
Messenger เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งที่คุณสามารถใช้สนทนากับเพื่อนหรือครอบครัวของคุณได้ โดยตรงกันข้ามกับ WhatsApp คุณจะมีวิธีง่ายๆ หนึ่งวิธีเพื่อตรวจสอบว่าคุณได้ถูกบล็อกบน Facebook Messenger
สิ่งที่คุณต้องทำก็คือให้ค้นหาเพื่อนของคุณบนแอปหรือเว็บของ Facebook หากว่ารายชื่อของพวกเขาไม่ปรากฎ แสดงว่าพวกเขาได้ปิดบัญชี หรือไม่พวกเขาก็บล็อกคุณเข้าแล้ว ถ้าหากคุณเคยแชทกับพวกเขา เมื่อเข้าไปดูในแชทคุณยังสามารถสังเกตุได้อีกว่า รูปโปรไฟล์ของพวกเขาจะว่างเปล่า และยังจะมีข้อความขึ้นมาบอกคุณว่าคุณไม่สามารถส่งข้อความหาพวกเขาได้อีกต่อไป
หากคุณต้องการตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณถูกใครบางคนบล็อกหรือไหม วานให้เพื่อนคุณช่วยค้นหาคนคนนั้น หากว่าชื่อของเขาแสดงขึ้นมาและสามารถติดต่อได้ ทำใจยอมรับซะว่าคุณถูกพวกเขาเหวี่ยงแล้วหล่ะ!
WhatsApp Messenger
WhatsApp เป็นแอพการสื่อสารที่ออกแบบมาสำหรับสมาร์ทโฟนที่ให้ผู้ใช้ส่งข้อความผ่านเครือข่ายไร้สายหรือ 3g เมื่อมีการเชื่อมต่อ แชทหรือส่งวิดิโอ รูปภาพและเสียง บันทึก ไปยังรายชื่อติดต่อ (รวมทั้งหมายเลขระหว่างประเทศ) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม