วิธีเช็คว่ามีคนแอบล็อกอินเข้าไปใช้ facebook ของคุณไหม?
ถ้าคุณเป็นคนนึงที่ใช้เฟสบุ๊คเป็นประจำ ต้องระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวกันนิดนึงนะคะ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าเฟสบุ๊คได้ให้ข้อมูลส่วนตัวเราให้คนอื่นเพื่อเป็นประโยชน์ด้านโฆษณา เหล่าผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ต่างๆ จนเป็นเรื่องใหญ่โตมาก่อน ข่าวที่ว่ามีคนโดนแฮกบัญชีเฟสบุ๊คแล้วมีคนพิมพ์แชทไปหาเพื่อนของเจ้าของบัญชีใน facebook เพื่อให้โอนเงินให้หน่อยด้วยเหตุผลต่างๆนาๆก็มีให้เห็นอยู่มากมาย มารู้ตัวอีกทีก็สายไปซะแล้ว
ไล่ไม่ทันพวกต้มตุ๋น วันนี้เราเลยมีวิธีเช็คว่ามีใครกำลังแอบล็อกอินเข้ามาใช้บัญชี facebook ของเราอยู่หรือเปล่าเพื่อรู้ทันแล้วรีบเปลี่ยน password ให้ยากขึ้นเพื่อหนีผู้ร้ายเหล่านี้กันได้ทัน
จริงๆแล้ว Facebook มีฟีเจอร์นึงที่มีมานานแล้วที่ให้เราสามารถเข้าไปใช้เพื่อเช็คได้ โดยทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- คลิกไปที่ลูกศรที่อยู่ด้านบนขวาของ Facebook แล้วเลือกที่เมนู “การตั้งค่า” (setting)
- จากนั้นเลือกเมนูที่อยู่ด้านซ้ายมือก็คือ “การรักษาความปลอดภัยและการเข้าสู่ระบบ” (Security and login)
- แล้วให้มาดูที่หัวข้อ “อุปกรณ์ที่คุณเข้าสู่ระบบอยู่” (Where you’re logged in) เมื่อคุณดูที่รายละเอียดตรงนี้ คุณจะเห็นได้ว่ามีอุปกรณ์ประเภทไหน และอยู่ที่สถานที่ไหนใช้งานบัญชี Facebook บัญชีนี้บ้าง
มาถึงขึ้นตอนนี้ ถ้าเห็นว่ามีรายการไหนแปลกๆที่ไม่ใช่ตัวคุณเองใช้งาน ก็มีขนลุกขนพองกันบ้างล่ะค่ะ ถ้ามั่นใจว่าไม่ใช่เครื่องของคุณเอง ตัวของคุณเองใช้งาน คุณสามารถที่จะกดที่ปุ่มแฮมเบอร์เกอร์แล้วเลือกคำว่า “ไม่ใช่คุณ” (not you) เพื่อที่เฟสบุ๊คจะได้ช่วยบล็อกอุปกรณ์เหล่านั้นไม่ใช้สามารถกลับมาใช้งานได้อีก ส่วนอีกตัวเลือก “ออกจากระบบ” (log out) อาจจะไม่มีประสิทธิผลมากนักไม่ต่างจากเมนู “ออกจากระบบทุกอุปกรณ์” (log out of all sessions) เพราะถ้าคนที่แอบใช้งานเฟสบุ๊คของเรารู้รหัสเข้าล่ะก็ เค้าก็สามารถที่จะล็อกอินใหม่ได้อยู่ดี เพราะฉะนั้นแนะนำให้หลังจากออกจากระบบแล้วก็ให้ทำเรื่องรีบเปลี่ยน password ทันทีเพื่อที่จะได้ป้องกันตัวเองจากคนร้ายในครั้งต่อๆไป โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ค่ะ
- คลิกไปที่ลูกศรที่อยู่ด้านบนขวาของ Facebook แล้วเลือกที่เมนู “การตั้งค่า” (setting)
- จากนั้นเลือกเมนูที่อยู่ด้านซ้ายมือก็คือ “การรักษาความปลอดภัยและการเข้าสู่ระบบ” (Security and login)
- ดูที่หัวข้อ “การเข้าสู่ระบบ” (log in) แล้วเลือก “เปลี่ยนรหัสผ่าน” (change password)
- กด “แก้ไข” (edit) แล้วทำการกรอกรหัสใหม่ตามต้องการ เอาแบบที่ยากๆไม่ให้คนอื่นรู้ได้ง่ายๆนะคะ
และนี่ก็คือวิธีการเช็คว่ามีอุปกรณ์อะไร ใช้จากสถานที่ไหนที่แม้ตัวคุณเองก็ยังไม่เคยไปหรือเปล่า แนะนำให้เช็คกันทุกคนเลยนะคะ จะได้ทำการแก้ไขได้ทัน สำหรับเรื่อง password ถ้าอยากตั้งให้มีความปลอดภัยแบบจริงๆ เราแนะนำให้ใช้ password manager ค่ะ เป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระการจำ password ยากๆยาวๆ แถมยังเป็นการ์ดป้องกันช่วยคิดรหัสผ่านแบบปลอดภัยให้อีกต่างหาก เรื่องการใช้ wifi สาธารณะยังไงให้ปลอดภัยบนมือถือแอนดรอยด์ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญเช่นกัน