ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจของแอนดรอยด์ 11
หลังจากการเปิดตัวแอนดรอยด์ 11 เวอร์ชันเบต้า Google ก็ได้ประกาศและเปิดตัวแอนดรอยด์ 11 เวอร์ชันใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 8 กันยายน โดยแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่มีแนวโน้มคล้ายกับแอนดรอยด์ 10 เป็นอย่างมาก พร้อมคุณสมบัติใหม่และมีการอัพเดต
การอัพเดท แอนดรอยด์ 11 สามารถให้บริการสำหรับอุปกรณ์ Pixel ของ Google ( Pixel 2 และใหม่กว่า ) และอีกไม่นานจะสามารถใช้ได้ในอุปกรณ์ใหม่ๆอย่าง Xiaomi , OnePlus , Realme และแบบอื่นๆ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีอุปกรณ์เหล่านี้ สามารถนำมาตรวจสอบได้ว่าคุณได้รับการอัพเดทหรือไม่จากการเข้าไปที่ “การตั้งค่าสูง”
ฟีเจอร์ใหม่ของแอนดรอยด์ 11 มีดังนี้
การแจ้งเตือนบนสนทนา
ในแอนดรอยด์ 10 การแจ้งเตือนจะปรากฏออกมาในแบบลิสต์ และการแจ้งเตือนที่มีความสำคัญจะปรากฏทางด้านบนสุดของรายการ ในทางกลับกันการแจ้งเตือนแบบไม่มีเสียงจะปรากฏที่ด้านล่างของรายการ และในแอนดรอยด์ 11 จะมีระบบที่แตกต่างกัน โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ การสนทนาการแจ้งเตือนและการปิดเสียง
ในส่วนของการสนทนานั้นประกอบด้วยการแจ้งเตือนจากการสนทนาทั้งหมดของคุณจากแอปแชทและโซเชียลต่างๆ และการแจ้งเตือนและการแจ้งเตือนแบบเงียบใน แอนดรอยด์ 11 จะปรากฏออกมาเหมือน แอนดรอยด์ 10 นอกจากนั้นแล้วคุณสามารถปิดเสียงการแจ้งเตือนจากแอปต่างๆ และการแจ้งเตือนในอนาคตจะปรากฏในส่วนการแจ้งเตือนแบบเงียบ
บับเบิ้ลข้อความ
แอนดรอยด์ 11 จะมีฟีเจอร์บับเบิ้ลข้อความเหมือนกับแอป Messenger เมื่อผู้ใช้ได้รับข้อความจากแอปต่างๆ จะสามารถมองเห็นหัวข้อแชตในบับเบิ้ลบนสกรีนของคุณ
ประวัตการแจ้งเตือน
ด้วยแอนดรอยด์ 11 คุณสามารถเข้าถึงการแจ้งเตือนก่อนหน้านี้ทั้งหมดได้จาก หน้าประวัติการแจ้งเตือน คุณสมบัตินี้ช่วยให้อุปกรณ์ของคุณบันทึกการแจ้งเตือนทั้งหมดที่ได้รับภายใน 24 ชั่วโมง โดยสามารถเข้าถึง ประวัติการแจ้งเตือนได้ โดยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > แอปและการแจ้งเตือน > การแจ้งเตือน > ประวัติการแจ้งเตือนเพื่อเปิดใช้งาน
การบันทึกของหน้าจอ
แอนดรอยด์ 11 มาพร้อมกับคุณสมบัติการบันทึกหน้าจอที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากไทล์การตั้งค่าแบบด่วนที่ปรากฎขึ้นเมื่อคุณลากพื้นที่การแจ้งเตือนลง เมื่อเปิดใช้งานการบันทึกหน้าจออุปกรณ์ของคุณจะบันทึกกิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนหน้าของคุณ
การขออนุญาตแบบครั้งเดียวและการรีเซต
สำหรับแอนดรอยด์ 10 เมื่อคุณต้องการติดตั้งแอป จะต้องทำการขออนุญาตเสมอไม่ว่าจะเป็นแอปที่ใช้หรือไม่ใช้ แต่สำหรับแอนดรอยด์ 11 ผู้ใช้จะได้รับตัวเลือกในการให้สิทธิแอปสำหรับเซสชั่นนั้นๆ
การตั้งเวลาดาร์คโหมด
ดาร์คโหมดเป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมที่มาพร้อมกับ แอนดรอยด์ 10 และยังมีรวมอยู่ใน แอนดรอยด์ 11 อีกด้วย พิเศษสุดคือได้รับการปรับปรุงคุณสมบัติให้ดีขึ้น โดยสามารถตั้งเวลาเปิดปิดของดาร์คโหมดได้อีกด้วย
และคุณสมบัติเหล่านี้ก็เป็นเพียงคุณสมบัติส่วนหนึ่งของ แอนดรอยด์ 11 คุณสามารถตรวจสอบฟังก์ชั่นใหม่ทั้งหมดได้จากการติดตั้งการอัพเดทบนอุปกรณ์ของคุณ