วิธีการลบข้อมูลออกจากอุปกรณ์ที่หายหรือถูกขโมย
ย้อนกลับไป 10 ที่แล้ว ถ้าเราบังเอิญทำโทรศัพท์ อย่างมากเราก็คงรู้สึกเสียดายและรำคาญใจ แต่ไม่มีความเสี่ยงที่ข้อมูลของเราจะหลุดรั่วไปถึงใครได้ ขณะที่ทุกวันนี้ เราไม่ได้บันทึกเพียงแค่ข้อมูลผู้ติดต่อไว้ในโทรศัพท์เท่านั้น แต่ยังมีข้อมูลอื่นๆ อีกมากมายอย่างรูปภาพและวิดีโอของคนที่เรารัก แอปพลิเคชันทั้งหลายที่เก็บข้อมูลธนาคารของคุณไว้ และยังมีบัญชีโซเชียลมีเดียที่คุณเข้าสู่ระบบทิ้งเอาไว้อีก โทรศัพท์ของเราเต็มไปด้วยข้อมูลส่วนตัวทั้งสิ้น
การทำโทรศัพท์หายสักครั้งก็กลายเป็นเรื่องใหญ่และน่ารำคาญใจได้ ถึงแม้ว่าเราจะหลีกเลี่ยงไม่ให้มันเกิดขึ้นได้บ่อยๆ ก็เถอะ (เช่น ไม่วางโทรศัพท์มั่วซั่วถ้าคิดจะดื่ม) แต่การทำโทรศัพท์ก็เหมือนเป็นอุบัติเหตุที่เราควบคุมไม่ได้ทั้งหมดหรอก เราจึงมีทางออกและสิ่งที่คุณควรทำหลังทำโทรศัพท์หายไป ถ้าคุณเผลอทำโทรศัพท์หายจริงๆ ลองมาดูวิธีการลบข้อมูลออกจากอุปกรณ์ที่หายหรือถูกขโมยกัน
สิ่งแรกที่ต้องทำ
อันดับแรกนั้น คุณควรเลื่อนลงไปด้านล่างสุดของหน้านี้ และดาวน์โหลดแอปนี้ที่เราแนะนำเสียก่อน – หาอุปกรณ์ของฉัน (Find my Device) แค่คุณดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันนี้เอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยก็จะสามารถลบข้อมูลส่วนตัวได้หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน
เมื่อคุณติดตั้งแอปพลิเคชันแล้ว ไปที่ “การตั้งค่า Google” (Google Settings) —> “ความปลอดภัย” (Security) —> “หาอุปกรณ์ของฉัน” (Find My Device) เพื่อตรวจสอบว่าแอปทำงานแล้ว คุณยังควรอนุญาตสิทธิในการดูตำแหน่งอุปกรณ์ของคุณด้วย
ในกรณีที่คุณทำโทรศัพท์หาย เพียงเข้าสู่ระบบบัญชีของคุณโดยใช้แอปจากอุปกรณ์อื่น หรือไปที่เว็บไซต์ Find My Device ก็ได้ ถ้าโทรศัพท์ของคุณจับสัญญาณได้ แผนที่จะแสดงตำแหน่งของโทรศัพท์อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีสามตัวเลือกให้คุณจัดการกับโทรศัพท์ได้อีกด้วย ได้แก่ เล่นเสียง ทำให้อุปกรณ์ปลอดภัย และล้างข้อมูลในเครื่อง
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณทำโทรศัพท์หายจริงๆ
ก่อนที่เราจะลงมือทำอะไรจริงๆ คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าทำโทรศัพท์หายจริงๆ บางทีคุณอาจลืมไว้ในรถหรือวางทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่งในบ้าน หรือลูกๆ อาจจะเอาไปซ่อนก็ได้ อย่าได้ชะล่าใจเชียว และเพื่อช่วยให้คุณหาโทรศัพท์เจอง่ายขึ้น แอปพลิเคชันนี้สามารถตั้งค่าให้โทรออกต่อเนื่อง 5 นาทีได้ด้วย โทรศัพท์ของคุณจะดังอยู่อย่างนั้นนานถึง 5 นาทีจนกว่าคุณจะกดปุ่มเปิดเครื่อง
ส่งข้อความจิ๋ว
ในเมื่อคุณหาเท่าไรก็หาไม่เจอ ขั้นตอนต่อมาก่อนที่ตัดสินใจล้างข้อมูลคือต้องลองดูว่าจะมีใครเก็บได้หรือเปล่า และถ้ามีคนเก็บโทรศัพท์ของคุณได้จริงๆ เขาจะคนให้คุณหรือไม่ คุณสามารถใช้แอปนี้ปรับให้หน้าจอล็อกของคุณแสดงข้อความได้ และไม่ว่าคุณจะทุกข์ระทมแค่ไหนก็ตาม พยายามส่งข้อความดีๆ ออกไป อาจจะเสนอรางวัลตอบแทนให้ก็ได้ พร้อมกับให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับไปด้วย
ล้างข้อมูลระยะไกล
เอาล่ะ เรามาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ถ้าคุณทำตามสองขั้นตอนแรกแล้วยังไม่เกิดผล ก็ถึงเวลาต้องลบทุกอย่างทิ้งไปถ้าคุณยังมีโอกาส โดยเลือกตัวเลือกล้างข้อมูลในเครื่อง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่อยู่ใน SD การ์ดจะไม่ถูกลบ และเมื่อขั้นตอนการล้างข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว คุณจะไม่สามารถระบุตำแหน่งโทรศัพท์ของคุณได้อีก
ถ้าคุณมั่นใจและตัดสินใจได้แล้วว่าจะล้างข้อมูล แค่กดปุ่มและข้อมูลทุกอย่างในอุปกรณ์แอนดรอยด์ของคุณก็จะถูกลบออกไป ทั้งเพลง รูปภาพ เอกสาร แอป บัญชีผู้ใช้ และข้อมูลอื่นๆ ที่อยู่ในเครื่องจะหายไปทั้งหมดเหมือนรีเซ็ตเป็นการตั้งค่าจากโรงงาน ซึ่งหลังจบขั้นตอนนี้แล้ว เราขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนรหัสผ่านบัญชีโซเชียลและบัญชี Google ของคุณ ถือว่าปลอดภัยไว้ก่อน
นี่แหละทางออก แต่จะให้ดี เราขอแนะนำจากใจจริงว่าอย่าทำโทรศัพท์หายเลย จะได้ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนี้!
หาอุปกรณ์ของฉัน
แอปพลิเคชันที่ช่วยให้คุณสามารถระบุตำแหน่งอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่หายไป และช่วยปกป้องข้อมูลของคุณ นี่คือเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณถ้าคุณไม่รู้ว่าโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณอยู่ไหน คุณสามารถใช้แอปพลิเคชันนี้ระบุตำแหน่งอุปกรณ์ของคุณจากระยะไกลได้จากคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่ใช้บัญชี Google และยังสามารถรีเซ็ตหรือตั้งค่าพินเพื่อล็อกเครื่องได้เช่นกัน